kaiwanmuanmon5511600110

ข้อที่ 1. จะนำ ict มาใช้ในโครงการ อุบล เมืองสุขภาพ (Ubon Be Health )ในประเด็นใด          1. จะต้องมีการประชาสัมพันธ์เชิญชวน แน่นอนว่าการบอกปากต่อปากนั้นลำบากและกว่าจะได้คนครบคงใช้เวลานานมาก จึงควรให้หัวหน้าชุมชนเป็นผู้จัดการรวบคนให้ได้ก่อน ซึ่งช่องทางการรวบรวมควรบังคับเลยให้หัวหน้าชุมชนใช้ โซเชียวมีเดีย ในการจัดหาให้เริ่มเพิ่มสมาชิคเข้ากลุ่มเลยแล้วจึงให้สร้างกลุ่มที่เป็น ของ Ubon Be Health แล้วเราก็จะมีกลุ่มสำหรับการประชาสัมพันธ์และแจกจ่ายข้อมูล แน่นอนว่าก็ได้จำนวนคนไม่ครบทั้งหมดแน่นอน แต่บุคคลในกลุ่มเหล่านี้ละจะเป็นผู้ที่กระจายข้อมูลข่าวสาร ไปยังแหล่งชุมชนในท้องถิ่นให้ทราบข้อมูลข่าวสารจากส่วนกลาง แนวนางนี้เป็นแนวทางที่ลดค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นด้วย          2. การจัดการประกวดแข่งขัน ถึงแม้ทุกคนจะรู้ว่าการดูเลรักษาสุขภาพจะดีมากมายเพียงใดก็ยากที่จะปฏิบัติ แต่ถ้ามีของรางวัลของประกาศเกียติคุณเข้ามาสักหน่อยนี้ละจะเป็นตัวพักดันให้เกิดการปฏิบัติให้ผลมากยิ่งขึ้นแน่นอน และที่สำคัญ ให้นำภาพของผู้ที่ได้รางวัลจากการประกวดแข่งขันนั้นไปเผยแพร่ยังโสเ...

1 เสนอความเห็นเกี่ยวกับการจัดต่้ังศูนย์จัดการความรู้เพื่อพัฒนาจังหวัด ว่าจะดำเนินการอย่างไร ด้านใดบ้าง ใช้ IT สิ่งที่สำคัญอันดับแรกเลยก็คือการรวบรวมความรู้ที่มีอยู่ภายในจังหวัดมารวมกันให้ได้ก่อนกระบวนการนี้อาจต้องใช้เวลาในการจัดการที่ค่อนข้างจะนานแต่หากมีการจัดการมีการจัดสรรคหน้าที่ความรับผิดชอบให้เหมาะสมก็คงไม่ใช่เรื่องยากนักที่จะรวมให้เสร็จโดยไว้ ซึ่งการรวบรวมนั้นก็แน่นอนคงไม่ใช่ในรูปแบบของกระดาษเอกสารหรือรายงานแน่ๆ ในการรวบรวมนี้ก็จะเป็นการรวบรวมและเก็บไว้ในรูปแบบของ เว็บไซต์ โดยให้มีการแบ่งออกเป็นในแต่พื้นที่ของตนว่าในเขตพื้นที่นั้นๆ มีความรู้มีภูมิปัญญาใดๆบ้าง อย่างพื้นที่ ที่ผมอยู่ ที่จังหวัดสุรินทร์ อำเภอโนนนารายณ์ ภูมิปัญญาที่ขึ้นชื่อก็จะเป็นในกลุ่มของการเลี้ยงหม่อนไหมและการจักสาน ที่มีการทำและสืบทอดกันมานานจนเกิดเป็นความเชียวชาญของคนในพื้นที่ ข้อมูลเหล่านี้ให้นำมาและจัดทำเป็นเว็บไซต์ให้เรียบ รายระเอียดที่ประกอบในเว็บนั้นต้องเป็นรูปแบบเดียวกันโดยให้ส่วนกลางหรือจังหวัดเป็นผู้จัดทำแบบฟอร์มหรือรูปแบบมาให้ อีกอย่างหนึ่งที่ต้องมีในเว็บนั้นที่ขาดไม่ได้เลยก็คือตำแหน่งที่ตั้งของสถานท...

ยุทธศาสตร์ที่ 1: การพัฒนากำลังคน ด้าน ICT และบุคคลทั่วไปให้มีความสามารถในการสร้างสรรค์ผลิต และใช้ สารสนเทศอย่างมีวิจารณญาณและรู้เท่าทัน เนื่องด้วยสิ่งที่สำคัญอันดับแรกคือตัวของบุคคล บุคคลที่จะนำไปใช้นั้นจำเป็นต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่จะนำไปใช้ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าผู้คนส่วนใหญ่ภายในประเทศนั้นยังขาดโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีและถือได้ว่ามีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่มีโอกาสได้เข้าถึงโอกาสในตรงนี้ นั้นหมายความว่าผู้ที่ใช้สารสนเทศที่มีความเชียวชาญหรืออาจจะเป็นผู้ที่สามารถใช้ได้ในระดับหนึ่งมีเพียงกลุ่มน้อยดังนั้นการเกิดกระบวนการสร้างสรรค์การพัฒนาสารสนเทศ ก็จะถูกจำกัดอยู่ในวงเพียงเท่านี้ การต่อยอดต่างๆ ก็จะมีการเติบโตที่น้อยตามลงไปด้วย แต่หากมีการพัฒนาให้บุคคลทั่วไปที่ไม่มีโอกาสได้เข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศหรือแม้แต่บุคคลที่มีความเชียวชาญในการใช้สารสนเทศได้มีการพัฒนาฝึกอบรมได้มีการต่อยอดทางความคิด แน่นอนว่าบุคคลเหล่านั้นย่อมมีสามารถในการสร้างสรรค์ผลผลิตทางสาราสนเทศเป็นแน่แท้ ไม่เพียงแค่นั้น เมื่อเรามีกำลังคนที่มีความสามารถในการใช้สารสนเทศอย่างเชียวชาญแล้ว บุคคลที่มีค...